Wednesday, September 30, 2009

Toyota Camry Hybrid CNG

นอกจากการใช้น้ำมัน เบนซินแบบปกติแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต่างพยายามพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดในส่วนของเครื่องยนต์ สันดาปภายในให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถในการใช้พลังงานแบบอื่นๆ เช่น น้ำมันดีเซล ไปจนถึงแก๊สโซฮอล์แบบ E85
      
       แต่ นั่นยังดูธรรมดาเมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตใหม่ล่าสุดของโตโยต้าซึ่งจัดการนำ ระบบก๊าซธรรมชาติอัดหรือ CNG มาใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักสำหรับการขับเคลื่อนในรถยนต์ไฮบริด

       ผล ผลิตนี้ถูกเปิดตัวออกมาในแอลเอ มอเตอร์โชว์ 2008 เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และสามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะว่าเป็นการนำโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด รถยนต์ขนาดกลางยอดนิยมในตลาดสหรัฐอเมริกาและมีข่าวว่าจะขึ้นไลน์ผลิตในบ้าน เราช่วงปีหน้า มาดัดแปลงในส่วนของเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเมินน้ำมันเบนซินและหันมาใช้ก๊าซ CNG เป็นเชื้อเพลิงหลักในการขับเคลื่อนแทน
      
       โตโยต้าเคยเปิดเผยโปรเจ็กต์นี้ออกมาที่งานสัมมนา Sustainable Mobility Seminar โดยเอิร์ฟ มิลเลอร์ รองประธานกลุ่มบริษัท โตโยต้า กล่าวว่า โตโยต้าพยายามหาทางออกในการนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในอเมริกาเหนือ และการนำเครื่องยนต์สันดาปภายในของระบบไฮบริดมาจับคู่กับก๊าซธรรมชาติถือ เป็นอีกทางออกทางด้านวิกฤตพลังงานที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
      
       และ ตัวจริงของจริงที่เปิดตัวในแอลเอ มอเตอร์โชว์คือสิ่งที่ยืนยันถึงการเอาจริงของโตโยต้า ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะเป็นแค่ต้นแบบสำหรับจัดแสดงเพื่อหยั่งเชิงกระแสความต้อง การในตลาด แต่โอกาสที่จะผลิตจริงในอนาคตก็พอมีความเป็นไปได้ เมื่อการให้บริการด้านสถานีบริการก๊าซธรรมชาติในเมืองลุงแซมเริ่มมีการขยาย ตัวอย่างต่อเนื่อง

       เพื่อไม่ให้ดูเรียบและธรรมดาเกินไป โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ซีเอ็นจี คอนเซ็ปต์ จึงมากับรูปลักษณ์สุดสปอร์ตด้วยการติดตั้งชุดแต่งและปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ แตกต่างจากเวอร์ชันปกติที่ขายอยู่ในตลาด และเสริมความเร้าใจด้วยล้อแม็กขนาด 7.5X19 นิ้ว แถมลดความสูงเพื่อความปราดเปรียวอีกด้วย โดยที่กันชนท้ายมีการติดสติกเกอร์คำว่า Compressed Natural Gas Hybrid หรือ CNGH เพื่อระบุถึงประเภทของตัวรถ
      
       การปรับปรุงเรื่องของตัวถังมีแน่นอนและเป็นหน้าที่ของ TMS Advanced Product Strategy เพราะว่าโตโยต้าต้องติดตั้งถังเก็บ CNG ถึง 2 ใบ (ซึ่งมีความจุเทียบเท่าน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 8 แกลลอน หรือ 31.8 ลิตรเอาไว้ในรถ ซึ่งถังนี้สามารถทนแรงดันสูงและได้รับการผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต สามารถรับแรงดันได้ 3,600 psi และถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งของยางอะไหล่ จึงไม่เบียดบังพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระ ส่วนปัญหาเรื่องยางอะไหล่ถูกถอดออกไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างไร เพราะว่าเลือกใช้ยาง 225/30ZR19 ของบริดจสโตนรุ่นโพเทนซ่าที่เป็นแบบ Run Flat

       งานทั้งหมดเกิดขึ้นที่ Metal Crafters of Fountain Valley ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และส่วนของเครื่องยนต์สันดาปภายในมีการดัดแปลงหลายอย่าง โดยเฉพาะการถอดชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงออกและแทนที่ด้วย ชิ้นส่วนสำหรับใช้กับก๊าซ CNG ซึ่งรถยนต์ต้นแบบรุ่นนี้วิ่งโดยใช้เชื้อเพลิงแบบเดียว ไม่ใช่ 2 ระบบ หรือ Bi-Fuel
      
       ใน ส่วนการทำงานของระบบไฮบริดก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,400 ซีซี VVT-I ที่เป็นขุมพลังหลักของการขับเคลื่อนมาพร้อมกับความประหยัด และเมื่อจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าในการทำงาน สามารถรีดกำลังออกมาได้ 170 แรงม้า แต่นั่นยังไม่เท่ากับความประหยัดที่จะได้รับซึ่งเหนือกว่าระบบไฮบริดที่ใช้ น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพราะ CNG 1 ชุดจากการเติมจนเต็ม สามารถแล่นทำระยะทางได้มากกว่า 250 ไมล์ หรือกว่า 400 กิโลเมตร

       ส่วน ตัวเลขความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 13.4 กิโลเมตรต่อลิตรสำหรับการขับในเมือง 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร และแบบผสมในระดับ 13.4 กิโลเมตรต่อลิตร แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวเลขที่หวือหวาหรือน่าตกใจแต่อย่างใด เพราะคัมรี่ ไฮบริดที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก็ทำได้ประมาณนี้ แต่ถ้ามองในแง่ที่ของความพยายามในการมองหาพลังงานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือก ใหม่ให้กับตลาดสำหรับแทนที่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ถือว่า CNG ทำผลงานได้ดี
      
       นอก จากนั้นเรื่องของตัวเลขของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็น่าสนใจ เพราะว่าคัมรี่ ไฮบริด ซีเอ็นจี คอนเซ็ปต์มีระดับของการปลดปล่อยทั้งไนตรัสออกไซด์, คาร์บอนมอนออกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์ และนอน-มีเธน ออร์แกนิก แก๊ส หรือ NMOG น้อยกว่ารุ่นไฮบริดธรรมดา เพราะว่าจุดวาบไฟ (Flash Point) หรืออุณหภูมิของการจุดระเบิดของ CNG สูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง ก็เลยทำให้สามารถออกแบบเครื่องยนต์ให้มีอัตราส่วนการอัดได้ ทำให้การเผาไหม้มีความสมบูรณ์มากกว่า

       โป รเจ็กต์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โตโยต้าให้ความสนใจกับการนำก๊าซธรรมชาติอัดมา ใช้เป็นเชื้อเพลิง เพราะว่าในปี 1999 โตโยต้าเคยพัฒนารถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงออกสู่ตลาด ซึ่งเครื่องยนต์ 4 สูบของรถยนต์คัมรี่ได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงเพื่อส่งขายให้กับลูกค้าแบบ Fleet เฉพาะมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ก็ขายได้ไม่นานเพราะว่าในปีต่อมา โครงการนี้ถูกยกเลิกเพราะว่ามีความยุ่งยากในการหาสถานีบริการ และราคาน้ำมันตอนนั้นก็ยังไม่แพง แต่สำหรับสภาพปัจจุบัน ที่สถานีบริการ CNG มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังงานทางเลือกประเภทนี้ได้รับความสนใจอีกครั้ง
      
       นอก จากนั้น โตโยต้าเชื่อว่า CNG จะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นในอนาคตทั้งตลาดสหรัฐอเมริกา และทั่วโลก เพราะว่ามีแหล่งสำรองในธรรมชาติเป็นจำนวนมาก และด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถนำมาใช้ได้อย่างต่อเนื่องจน กระทั่งถึงปี 2100 แต่ถ้ามีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น ก็น่าจะใช้กันยาวจนถึงปี 2200 เลยทีเดียว

Tuesday, September 29, 2009

Honda Insight Hybrid

http://www.hondainsighthybrids.com/wp-content/uploads/image-styling.jpg
เผยโฉมขึ้นในงานดีทรอยต์มอเตอร์โชว์เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และก็ได้รับเสียงตอบรับด้วยดีจากกระแสลดโลกร้อน ด้วยความเป็นรถยนต์ที่มาในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน ทำให้เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจะได้รับความนิยมด้วยดี ล่าสุดตลาดรถยนต์บ้านเราก็คึกคักขึ้นอีกครั้ง เมื่อ BRG ซึ่งเป็นผู้นำเข้าอิสระนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นเจ้าแรก งานเปิดตัวของ HONDA INSIGHT ในงานมอเตอร์โชว์ที่ดีทรอยต์มีคอนเซปต์คือ INSIGHT ALL NEW HYBRID เริ่มต้นจากความต้องการหารถยนต์ที่ช่วยประหยัดในด้านพลังงาน อีกด้านหนึ่งก็ต้องคิดค้นและพัฒนาหารถยนต์ที่ช่วยลดมลพิษให้ได้มากที่สุด ซึ่งยังต้องเป็นรถยนต์ที่มีการขับเคลื่อนที่ดี ขับสนุกและต้องเป็นที่ยอมรับกับผู้บริโภคด้วย
Green Machine by BRG
ทาง BRG รามคำแหง กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถยนต์หรูรายใหญ่ เผยโฉม Honda Insight Hybrid  ซีดาน 5 ประตู 5 ที่นั่ง ยนตรกรรม Green Machine ภายใต้แนวคิด “ใส่ใจโลก ใส่ใจคุณ” ครั้งแรกในเมืองไทย ในงาน BRG Mini Motor Show  เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคมที่ผ่านมา
จากกระแสความนิยมในการเลือกซื้อรถยนต์รุ่นใหม่จากค่ายผู้ผลิตที่ให้ความ สำคัญในการพัฒนาเครื่องยนต์โดยคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมนับวันจะเพิ่มขึ้น ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะ  ความต้องการใช้รถยนต์ที่นำเทคโนโลยี Hybrid (ไฮบริด) มาใช้ในการผลิต โดยพบว่าในปัจจุบัน รถยนต์ที่ผลิตภายใต้เทคโนโลยี ไฮบริด มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภค เห็นได้จากจำนวนผู้ใช้รถยนต์ไฮบริด ในเมืองไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

http://www.egmcartech.com/wp-content/uploads/2009/01/2010_honda_insight_hybrid_image_047.jpg
สำหรับเจ้า Honda Insight  Hybrid เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC SOHC 4 สูบ ปริมาตรความจุ 1.3 ลิตร มี 88 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 90 ปอนด์-ฟุต ที่ 4,600 รอบ/นาที สอดประสานกับระบบไฮบริดแบบ IMA หรือ Integrated Motor Assist ซึ่งเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทำหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนและชาร์จกระแส ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 13.6 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 76 ปอนด์-ฟุต ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง
Honda Insight  Hybrid เป็นรถสปอร์ตแฮทช์แบ็ค 5 ประตู 5 ที่นั่ง  โดดเด่นทันสมัย ตามหลักแอโรว์ไดนามิก กันชนหน้า ปรับให้ต่ำลง เพิ่มไฟตัดหมอกด้านหน้า มิติตัวถังกะทัดรัด ความยาวโดยรวม 4,390 มม. ความกว้าง 1,695 มม. และความสูง 1,425 มม. พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่อย่างมีสไตล์ และสะดวกสบายสูงสุด ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับระดับได้ ระบบกรองอากาศเพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ กุญแจแบบ Immobilizer พร้อมสัญญานกันขโมย เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติให้ความปลอดภัยสูง ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแปรผันตามความรุนแรง ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิก EBD(Electronic Brakeforce Distribution) ทำหน้าที่กระจายแรงเบรกระหว่างล้อคู่หน้าและหลังได้อย่างสมดุลและแม่นยำ นอกจากนี้ แผงหน้าปัดของ Honda Insight ดูทันสมัยด้วยดีไซน์ 2 ชั้น   ประกอบด้วย  จอมอนิเตอร์สำหรับดูหนังฟังเพลง การแสดงผลความเร็วด้วยตัวเลขดิจิตอล มาตรวัดรอบเครื่องยนต์  หน้าจอแสดงผลการชาร์จหรือช่วยขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้า
New Honda Insight Hybrid
รุ่น 1.3 L i-VTEC+IMA
เครื่องยนต์ LDA-MF6
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,339
จำนวนลูกสูบ แถวเรียง /4 สูบ/4 วาล์ว ต่อสูบ
อัตราทดเกียร์ 10.8
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง Electric controlled fuel injection type (Honda PGM-FI)
ลักษณะเชื้อเพลิง เบนซิน
ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ระบบพวงมาลัย Rack & pinion (power steering)
ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) Oil pressured disk/oil pressured reading*trailing
ระบบกันสะเทือน(หน้า/หลัง) McPherson/wheel
เสถียรภาพ(หน้า/หลัง) Torsion bar
ระบบเกียร์ เกียร์อัตโนมัต Honda multi matic S [Prosmatec]
อัตราสิ้นเปลือง 10-15 mode    30 ก.ม./ลิตร JC08 mode    26ก.ม./ลิตร
เครื่องยนต์
แรงม้าสูงสุด(kW[PS]/r.p.m.) 65(88)/5800
แรงบิดสูงสุด(Nm[kgm]/r.p.m.) 121(12.3)/4500
Motor
แรงม้าสูงสุด(kW[PS]/r.p.m.) 10(14)/1500
แรงบิดสูงสุด(Nm[kgm]/r.p.m.) 78(8.0)/1000
มิติ      ความยาว 4.390
ความกว้าง 1.695
ความสูง 1.425

Preview Toyota Camry Hybrid


Toyota รุกหนักตามแผนยุทธศาสตร์ทั่วโลกให้รถยนต์ Hybrid กระจายไปตามทุกมุมทุกแห่งของโลกวางโครงสร้างรถยนต์ประหยัดพลังงานให้ซึมลึก เข้าในสายเลือดผู้บริโภคเมื่อเกิดวิกฤตน้ำมันแพงหรือถึงวาระน้ำมันเหือดแห้ง ไป หวังยอดขายมากกว่า 10%ของเครื่องยนต์สันดาปภายในภายใน 2015 ขณะนี้รถ Toyota Hybrid มียอดขายมากถึง 1.7 ล้านคันเฉพาะปี 2008 และจะยิ่งได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นจากภาวะราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ไม่เกิน 1-2 ปีนี้
ไม่รอช้า Toyota Motor Thailand ส่ง Camry Hybrid เปิดตัวรอบสื่อมวลชนก่อนใคร เปิดตัวครั้งที่ 2 ในเอเชียแต่จะผลิตในไทยที่แรกในโลกก่อนประเทศจีน โดยเห็นแค่ตัวรถเท่านั้นไม่สามารถเปิดดูภายในรถได้รวมถึงรายละเอียดทาง เทคนิคทั้งหมดก็ยังไม่ได้ระบุจนกว่าจะเปิดตัวจริงวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นวันที่ซักถามและเรียนรู้เกี่ยวกับระบบไฮบริดส่งต่อข่าวคราวไปยังผู้ บริโภคก่อนที่จะขายจริง
ตัวรถดีไซน์ให้แตกต่างจากเวอร์ชันปกติด้วย กระจังหน้าเงากึ่งโครเมี่ยมสองชั้นดูล้ำสมัยมากกว่าจะดูหรูหรา ลายกระจังแตกต่างจาก Camry เวอร์ชันปกติที่ Minorchange พอสมควร รวมทั้งกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่ให้ลมไหลเวียนได้ลื่นไหลกว่าเดิม ไฟท้ายเปลี่ยนเป็นโคมใสออกสีเงิน ๆ เหมือนตระกูลไฮบริดของ Toyota รุ่นอื่น ๆ
ระบบ Hybrid ที่ Toyota เรียกใช้ชื่อว่า Hybrid Synergy Drive เป็นระบบ Full Hybrid สอดประสานทำงานทั้งเครื่องยนต์ 2AZ-FXE แบบ Atkinson Cycle เวอร์ชันอเมริกาจะได้ 147 แรงม้าส่วนเวอร์ชันที่จำหน่ายในประเทศจะต้องรอสรุปให้แน่ชัดอีกครั้ง แต่ทีมงานยืนยันกับเราว่าเครื่องนี้เติมน้ำมัน E10 ได้เท่านั้น ประกบกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่แบบนิกเกิล เมทัล ไฮดราย
หลักการทำงานไฮบริดของ Toyota คงต้องสาธยายให้เข้าใจกันอีกสักรอบครับ
ขณะออกตัว
รถ ถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น ข้อดีคือการละเว้นใช้เครื่องสันดาปภายในที่ทุกครั้งสตาร์ทรถก็จะเกิดการต่อ ต้านแรงเสียดทานอย่างหนัก ณ ช่วงเวลาหนึ่งทำให้เกิดมลพิษสูง ณ ขณะนั้น
การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่และการเร่งความเร็ว
เครื่อง ยนต์จะทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าถูกควบคุมโดยระบบควบคุมอัจฉริยะให้ทำงานกันสมดุล ระหว่างอัตราเร่งและความประหยัด พลังงานส่วนเกินที่ได้จากเครื่องยนต์จะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บประจุ เอาไว้
แต่หากเร่งความเร็วสูงสุดเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะประสานกำลังพร้อมๆกันทันทีเพื่อรีดอัตราเร่ง เสมือนสองแรงแข็งขันกัน
การเติมพลังงานขณะเบรคหรือชะลอรถ
เครื่อง ยนต์หยุดทำงานทันที มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟและเปลี่ยนพลังงานความร้อนที่เกิด จากการลดความเร็วหรือเบรคเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บสะสมไว้ในแบตเตอรี่
การดับเครื่องยนต์ขณะจอด
ระบบ Idle Start-Start ดับเครื่องยนต์ขณะจอดช่วยลดมลภาวะและอัตราสิ้นเปลืองเชิ้อเพลิงได้มาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ ที่การจราจรติดขัด
ด้วย ระบบทั้งหมดทำให้ Camry Hybrid ประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องเบนซินปกติถึง 30% ลดมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศได้สูงมาก เมื่อมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกคนจะตระหนักว่าจะมีปัญหาอะไรไหม,ราคาเท่าไร งานนี้ Toyota ให้คำตอบพวกเราดังนี้
ราคาจำหน่าย Camry Hybrid จะแพงกว่ารุ่นเดิมเท่าไร? ความทนทานและค่าบำรุงรักษาจะแพงหรือไม่?
คาด ว่าจะไม่เกิน 1.8 ล้านบาทหรือแพงกว่ารุ่นปกติราว 1 แสนบาท เป็นเพราะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีสรรพสามิตรถไฮบริดแค่ 10% รวมทั้งยกเว้นภาษีสำหรับชิ้นส่วนไฮบริดได้แก่ แบตเตอรี่สำหรับประกอบเป็นรถคันจริง และจะพยายามเจรจาของลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง หากเจรจาสำเร็จจะยิ่งตั้งราคาได้ใกล้เคียงกับรุ่นปกติมากเท่านั้น
Toyota ยืนยันว่าความทนทานของระบบไฮบริดไม่แตกต่างจากรถเครื่องสันดาปภายในแท้ ๆ เพราะพวกเขาวิจัย พัฒนา และวางจำหน่ายมา 12 ปีแล้ว จึงมั่นใจว่าเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบกับการใช้งานจริงแล้ว โดยเฉพาะอัตราการเสียของแบตเตอรี่นิกเกิล เมทัล ไฮดราย ของรถโตโยต้าไฮบริดทั่วโลกภายใน 10 ปีมีแค่ 0.002% เท่านั้น
การสร้าง ความมั่นใจว่าแบตเตอรี่จะทนทานเพียงพอหรือไม่ Toyota กล้ารับประกันแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี จากเดิม 3 ปีเพื่อ หากหมดระยะประกันแล้วราคาแบตเตอรี่ลูกใหม่คาดว่าราคาจะไม่แพงถึง 2 แสนบาท พวกเรามองว่าคำตอบนี้ย่อหน้านี้คือสิ่งที่จะต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Toyota กดราคาแบตเตอรี่สำรองไว้ที่เท่าไร ผู้บริโภคกลัวมากว่าราคาจะพุ่งกระโดดไปถึง 3-4 แสนบาท
การกำจัด แบตเตอรี่ที่หมดอายุหรือเสียแล้ว Toyota เตรียมการทั้งหมดไว้แล้วตามกฏหมายและมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมระดับโลก ด้วยการรับผิดชอบรีไซเคิลกากแบตเตอรี่ทั้งหมด
Toyota พร้อมด้านการบริการเต็มที่ด้วยการจัดอบรมช่างผู้เชี่ยวชาญบริการหลังการขาย ,การเตรียมอะไหล่พร้อมทุกโชว์รูมและศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ 308 แห่ง และจัดช่างเทคนิคพิเศษประจำ 5 ภูมิภาคในจังหวัดสำคัญ ๆ หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ช่างในศูนย์บริการไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
เตรียม การพร้อมขนาดนี้ตั้งเป้าจำหน่ายรุ่นไฮบริดสูงถึง 60-70% ของยอดขาย Camry รวมหรือคิดประมาณ 550-700 คัน/เดือน ถือเป็นเป้าหมายที่สูงมาก ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0,2.4 และ 3.5 ลิตรยืนยันว่ายังทำตลาดเหมือนเดิมด้วยรุ่นปรับปรุงโฉมที่รูปร่างหน้าตา เหมือนเวอร์ชันจีนที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อมกราคม

Monday, September 28, 2009

Hybrid expansion After the Europe-only Auris goes hybrid, expect the Corolla sibling to be next on Toyota's eco-friendly agenda

If you don't count the Prius - a dedicated model from Toyota with petrol/electric drivetrain - the D-segment (mid-size) Camry was the first mainstream family car to get hybrid power and is now available in the US, Australia and Asia including Thailand.
And now that Toyota has previewed such an eco-friendly system in the C-segment (compact) Auris as seen here thinly disguised as a concept, it's quite obvious that the Corolla would be getting one too.
While the Auris is a five-door hatchback tailored for mainly for Europe, the Corolla is the four-door saloon sibling which most global markets get like Thailand.
In fact, Toyota has made it a point in recent months that it wants to offer a hybrid version in all of its model offerings by 2020.
Does that mean the Corolla will get the hybrid unit of the Auris?

Roof-mounted solar panels recharges portable phones and audio essentials.
Very likely, if you take into consideration the existing engineering trends of Toyota. The Auris will get the Prius's 99hp 1.8-litre petrol/electric combination along with the CVT transmission. Actually, that basic four-pot petrol is used in the Corolla in Japan and will soon replace the more dated 1.8, seen in the Thai Corolla.
The Camry Hybrid uses a similar formula in which the petrol engine is a 2.4-litre petrol head found in the regular Camry and is coupled to two electric motors.
Toyota stresses that the Auris Hybrid is like the Camry Hybrid and Prius where the system is deemed as "full hybrid". In other words, it intends to say that full hybrid can run solely on either petrol or electric power, or a combination of both.
Are there more tricks than just the hybrid engine itself?
Since the Auris HSD is a concept, some features may prove to be costly to install into a mainstream model that's not supposed to carry much of a premium like the committed Prius. Otherwise, it could scare away buyers.
The items in reference are underbody panels, rear diffuser and wheels with slippery surface to enhance aerodynamics. Other measures include a 20mm lower ride height and low rolling resistance tyres.
Like the Prius, the Auris HSD features a roof with solar panels that generate electricity to recharged portable phones and audio accessories. In the future, Toyota elaborates that such a sun-inducing system would additionally recharge the hybrid's batteries.
The last energy-saving feature is LED lights, used on both the front and rear ends.
Will it be cleaner and more economical than an Ecocar?
Toyota wasn't very exact with the figures of the hybrid-powered Auris, but only says that emissions will be less than 100g/km. So, if the Prius emits 89g/km and achieves 25kpl as claimed by the manufacturer, then the Auris - and even the Corolla - could achieve similar levels of emissions and economy.
Yes, these numbers are better than Ecocar's requirement of not more than 120g/km and at least 20kpl. But don't be misled. A hybrid-powered Corolla won't be meant to be as an Ecocar candidate in Thailand. The Thai government has capped engine size of petrol-sippers at 1.3-litre.
Toyota wouldn't care either because while Ecocar is subject to 17% excise tax, the Corolla Hybrid - like Camry Hybrid - attracts a lower 10%.
Hmm... and when is the Corolla Hybrid coming out?
When Motoring first drove the Camry Hybrid, Toyota sources weren't reluctant to hide that the Corolla will be the next model to go hybrid - and in this generation with the possibility of also being assembled in Thailand.
As the Camry received the hybrid treatment at mid-life, expect the same to happen with the Corolla. And that could mean in less than two years for the Corolla in Thailand.
For a million baht or so: hybrid-equipped Toyota Corolla or diesel-powered Ford Focus? Let the conundrum continue.

รถพลังลม



       ตาต้ามอเตอร์ บริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ประกาศผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานลมในการขับเคลื่อน โดยจะทยอยนำส่งเข้าสู่โชว์รูมในปี พ.ศ. 2552  รถยนต์พลังลม หรือ AirCar นี้ ใช้การปล่อยอากาศจากระบบบีบอัดอากาศด้วยความดันสูง โดยอากาศที่ปล่อยออกมาจะทำหน้าที่หมุนเพลาทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ โดยการเติมอากาศ สามารถเติมได้ตามสถานีอัดอากาศด้วยราคาไม่แพง โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ประมาณ 200 กิโลเมตรต่อการเติมอากาศหนึ่งครั้ง
       บริษัทผู้ออกแบบรถยนต์พลังลมคันนี้ คือ บริษัท MDI จากประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งให้สิทธิบัตรแก่ตาต้าในการผลิตรถยนต์พลังลมในประเทศอินเดีย
       โมเดลแรกของตาต้า CityCAT ตั้งราคาไว้ประมาณ 400,000 บาท  โดยตาต้าหวังไว้ว่าจุดเด่นของ CityCAT ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ และราคาไม่แพง จะทำให้รถพลังลมรุ่นแรกนี้ จะทำยอดขายได้ดีในตลาดอินเดีย



Sunday, September 27, 2009

Toyota Prius Hybrid 1.5 VVTi

http://www.youtube.com/watch?v=8PPhMYpPC4k&feature=player_embedded

How does hybrid MPG compare to Conventional Cars?

For example, the Toyota Prius is 90 percent cleaner than the average new 2005 car, according to the California Air Resources Board. This five-passenger sedan is considered a Super Ultra Low-Emission Vehicle (SULEV). And with a gas mileage of 60 mpg in the city and 51 mpg on the highway, you'll be able to drive quite some time before you even have to think about refueling. Incidentally, the car gets better mileage in the city because it uses the electric motor more with that type of driving.

For example, the Toyota Prius is 90 percent cleaner than the average new 2005 car, according to the California Air Resources Board. This five-passenger sedan is considered a Super Ultra Low-Emission Vehicle (SULEV). And with a gas mileage of 60 mpg in the city and 51 mpg on the highway, you'll be able to drive quite some time before you even have to think about refueling.

Incidentally, the car gets better mileage in the city because it uses the electric motor more with that type of driving. The 2005 Honda Civic Hybrid falls under the Ultra Low-Emission Vehicle (ULEV) category, which isn't too shabby either. A ULEV is about 50 percent cleaner than the average new 2005 model year car.

And while plenty of 2005 cars fall under this category, they don't match Civic Hybrid's gas mileage of 48 mpg in the city and 47 mpg on the highway. A Civic Hybrid is about 30 percent more fuel efficient than a conventional, gas-powered Civic.
As for the Honda Insight, this little two-seater is the most fuel-efficient car in the country. Its gas mileage is an impressive 61 mpg in the city and 66 mpg on the highway. Its automatic model, which comes with a continuously variable transmission, has been certified as a SULEV vehicle.

What emisions certificte ratings do hybrids have?
All california ratings for 2006
Do the batteries have to be replaced - and how much do they cost. At some point the batteries are going to have to be replaced and they're expensive," says Larry Webster, a technical editor at Car and Driver. "The cost could be anywhere from $1,000 to $2,000." The hybrid parts in a Toyota Prius, including batteries, are covered by an eight-year, 100,000-mile warranty. Honda covers its hybrid systems with an eight-year, 80,000-mile warranty. So in your ninth year as a car owner, you'll be on the hook for any hybrid repairs in addition to the car's ordinary maintenance costs.

Whats the forecast for the hybrid car market?
Higher gas prices are acting as a catalyst for automakers and consumers to find alternatives to the traditional gasoline internal combustions engine," said Anthony Pratt, senior manager of global powertrain forecasting at J.D. Power-LMC. "We anticipate this will lead to dramatic growth, particularly with diesels, over the next several years."

What are the main differences between a hybrid and a conventional car?

Some of features that differentiate a hybrid from a conventional vehicle are:

Electric Motor Drive - Usually the motor(s) are used to drive the vehicle at low speeds where they are more efficient than a ICE. The motor also provides assist to the ICE for acceleration, passing or hill climbing. This allows a smaller ICE to be used. The motor is typically sized only to get the vehicle up to about 25 miles per hour and to cruise at that speed. Only 10-15 miles may be driven at that speed in the all
electric mode.

Regenerative Braking - The
electric motor shuts down during braking and coasting. Then the wheels drive the motor and the motor acts like a generator, charging the batteries.

Automatic Start/Shutoff - The engine automatically shuts off when the vehicle comes to a stop. The motor starts when the accelerator is pressed to start up again. The division of power between the engine and motor is controlled by a computer to balances the power as needed.

Internal Combustion Engine - The ICE is usually smaller than the engine in a conventional car because it is not used as much for acceleration. Only the ICE is used to power the vehicle at cruising speeds. The motor comes on to assist it during passing or hill climbing, if there is a demand for it. A portion of the engines power is also used to charge the batteries if needed.

Introducing Toyota’s 2010 Camry Hybrid

As the best-selling passenger car in America for seven years running and 11 of the past 12 years, Camry continues to redefine standards for comfort and performance.The 2010 Camry and Camry Hybrid scheduled to go on sale in March, have an array of enhancements, inside and out, including exterior styling, performance, safety, audio and convenience features.

2010 Camry Hybrid
2010 Camry Hybrid

Camry also has an upgraded standard powertrain for 2010. A new 2.5-liter four-cylinder engine equipped with variable valve timing with intelligence (VVT-i) will produce 169 hp for Camry, LE and XLE grades. For sporty performance, SE grade get additional tuning and gets 179 horsepower, 21 more horsepower than the previous four-cylinder engine. The new engine can be combined with a six-speed manual transmission or a six-speed automatic transmission with sequential shift. A powerful 3.5-liter V6 delivering 268 horsepower is also available.

Exterior changes to the gas model Camry include a newly designed grille and front bumper, an enlarged lower intake, larger projector headlamps and restyled tail lamps. The Camry and LE grades feature restyled standard wheel covers. The XLE grade will run on new 16-inch 10-spoke alloy wheels, while the SE grade adds new 17-inch sporty alloy wheels.

The Camry Hybrid exterior enhancements will include a unique hybrid grille, a distinct front bumper, a wider lower intake, restyled fog lights and 16-inch alloy wheels.

The Camry Hybrid, equipped with Toyota's industry-leading Hybrid Synergy Drive, certified as an Advanced Technology Partial Zero Emissions Vehicle (AT-PZEV) is just one of a handful of cars that meets this strict standard, producing over 70 percent less smog-forming emissions than the average new car.

Inside, Camry and LE grades are available with an optional audio system equipped with a new USB port for auxiliary music sources, Bluetooth®, integrated satellite radio, single-CD, and MP3 and streaming music capability. Previously an option, all Camry gas models will now be equipped with Vehicle Stability Control with traction control. Auto up/down power windows with jam protection on all four doors is standard equipment. Camry Hybrid adds a newly designed meter cluster and Fraichir, a combination of silk protein and synthetic fiber, cloth seating surfaces that are gentle to the skin.

Pricing for the 2010 Camry will be announced shortly before it goes on sale this March.

Toyota Camry Hybrid To Be Built in Thailand

Tokyo — TOYOTA MOTOR CORPORATION (TMC) announced today that, as part of an effort to further popularize hybrid vehicles worldwide, it will begin producing the Camry Hybrid at their production base in Thailand in 2009.

Production of the Camry Hybrid at Toyota Motor Thailand's (TMT) Gateway Plant, with an annual production target of 9,000 vehicles.

"Thailand is the first ASEAN country to build hybrid vehicles.  As the Camry has received a warm welcome from Thai customers, we are sure these customers will be satisfied not only with the product but also with its environmental performance", said TMT President Mitsuhiro Sonoda at a joint press conference in Bangkok with Siam Toyota Manufacturing Co., Ltd., attended by Thai government officials.

Toyota also announced today, plans to build Camry Hybrids in Australia.

Toyota aims to sell 1 million or more hybrid vehicles annually as early as possible in the 2010s and is working to establish a worldwide optimal hybrid vehicle production system that reflects market needs.

Saturday, September 26, 2009

Hybrid intelligent drive

รูปภาพ

คัมรี...ยนตรกรรมแห่งเกียรติประวัติ
คัม รีเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น ปี พ.ศ. 2525 ซึ่งชื่อ 'คัมรี' ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่มาจากภาษาญี่ปุ่น โดยคำว่า 'คัมมูริ' นี้แปลว่า 'มงกุฎ' ซึ่งคัมรีได้สะท้อนความหมายนี้ออกมาอย่างชัดเจน โดยเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์ระดับกลาง ดีไซน์หรูหรา ห้องโดยสารโอ่อ่า กว้างขวาง สมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม อีกทั้งในอเมริกา คัมรียังได้รับความนิยม ด้วยการเป็นผู้นำรถซีดานขนาดกลางถึง 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน

คัมรีเข้ามาทำตลาดในไทยปลายปี 2536 ด้วยการเป็นรถนำเข้าจากออสเตรเลีย ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 100,000 คัน จากนั้นได้เริ่มประกอบในประเทศ เจนเนอเรชั่นที่ 4 และได้รับความนิยมจากลูกค้าในไทยมากขึ้นตามลำดับ จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 และครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50%

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า "กลุ่มลูกค้าของคัมรี ไฮบริด เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความนำสมัย เน้นประโยชน์ใช้สอยของรถเป็นหลัก โดยเราวางกลยุทธ์ของคัมรี ไฮบริด ภายใต้แนวคิด Inteligent Leader บ่งบอกถึงความเป็นอัจฉริยะในเรื่องของเทคโนโลยี โดยจะสื่อสารเป็น 2 ช่วง... ช่วงแรกสื่อสารเกี่ยวกับเทคโนโลยี HSD หรือ Hybrid Synergy Drive เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับทราบเกี่ยวกับระบบไฮบริดอย่างถูกต้อง จากนั้นจึงจะแนะนำคัมรี ไฮบริดอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง"

นอกจากนี้โตโยต้ายังมีนโยบายให้ส่ง แบตเตอรี่ใช้แล้ว กลับไปจำกัดที่บริษัทผู้ผลิต ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อการกำจัดแบตเตอรี่ไฮบริดอย่างถูกวิธี โดยทางโตโยต้า ประเทศไทย จะเป็นผู้ดำเนินการ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

Synergy Drive คือ การผสานพลังอัจฉริยะ... ด้วยระบบไฮบริด THSII
คัม รี ไฮบริด ตอบสนองการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle รหัส 2AZ-FXE ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร บวกกับชุดมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ ที่ 6500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ 187 นิวตันเมตร ที่ 4400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 270 นิวตันเมตร ที่ 0-1500 รอบต่อนาที

ชุด มอเตอร์ประกอบด้วย มอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ MG 1 สร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ไฮบริด และส่งกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน MG 2 และยังทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตาร์ทเครื่องยนต์ และมอเตอร์ขับเคลื่อน MG 2 ทำหน้าที่ขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากมอเตอร์ เจนเนอเรเตอร์ MG 1 และชาร์จไฟจากการชะลอความเร็ว หรือการเบรก เก็บไว้ในแบตเตอรี่ไฮบริด ลดการสูญเปล่าของพลังงาน

แบตเตอรี่ไฮบริด ชนิด nickle-metal hydride แหล่งเก็บประจุไฟฟ้าสำหรับพลังงานขับเคลื่อน ออกแบบใช้งานยาวนานเทียบเท่าอายุรถยนต์ ปลอดภัยด้วยชุดควบคุม ECU ตัดกระแสไฟฟ้าทันที เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ หุ้มฉนวนไฟฟ้าป้องกันไฟช๊อต พร้อม Service Plug ตัดกระแสไฟ ส่วนที่เก็บแบตเตอรี่ไฮบริด อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยต่อการชน และไม่เปลืองพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังรถ

Hybrid technology

“รถยนต์ไฮบริด หรือ เทคโนโลยีไฮบริด คือ เทคโนโลยีรถยนต์ที่มีการใช้พลังงาน 2 ส่วน ทั้งพลังงานน้ำมันควบคู่มอเตอร์ไฟฟ้า”

ภาพแสดงตัวอย่างการทำงานของรถยนต์โตโยต้าแคมรี่ไฮบริดครับ

รูปภาพ

camry hybride thailand2009

รูปภาพ

หลังจากโตโยต้าปูทางเรื่องราวของระบบไฮบริดมาเป็นเวลานานหลายปี และแล้วรถยนต์ไฮบริด โมเดลแรกของเมืองไทยก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ “คัมรี่ ไฮบริด” พร้อมกับการขึ้นไลน์ประกอบในประเทศแทนที่จะเป็นการนำเข้ามาจำหน่าย เรียกว่าเป็นเซอร์ไพร์สเล็กๆ

ด้วยสไตล์การทำตลาดแบบวิถีโตโยต้า การจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่สักรุ่นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมแบบครบวงจร รวมถึงใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อทำให้รถยนต์รุ่นนั้นประสบความสำเร็จ และในกรณีของ คัมรี่ ไฮบริด สิ่งสำคัญที่โตโยต้าต้องการจะสื่อให้ลูกค้าทราบคือ “การขอให้มั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์”

เนื่องจากความเป็นสินค้าใหม่สุดๆ เทคโนโลยีล้ำหน้า ที่ประชาชนคนไทย ส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคย ดังนั้นวิธีการที่จะสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้ทางหนึ่งก่อนที่รถจะเปิด ตัวอย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับไฮบริด(ที่โตโยต้าทำมานาน) คือ การนำสื่อมวลชน ไปทดลองขับและสัมผัสกับเจ้า คัมรี่ ไฮบริด ตัวเป็นๆ

รูปภาพ

การทดสอบมีขึ้น ณ สนามทดสอบรถยนต์ ของโตโยต้า ในบริเวณโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ และถือเป็นครั้งแรกของเรา “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ที่ได้สัมผัสกับสนามทดสอบแห่งนี้

ก่อนการทดลองขับ ทางโตโยต้าจัดอบรมความรู้ด้านระบบไฮบริดให้กับสื่อมวลชนทั้งหมดที่เข้าร่วม ในครั้งนี้ ส่วนของสเปค คัมรี่ ไฮบริด นั้นเรานำเสนอเพียงคร่าวๆ ด้วยเหตุโตโยต้ายังไม่เผยข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดออกมา เนื่องจากต้องรอหลังจากรถยนต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำหนดวันที่ 27 กรกฏาคมที่จะถึงนี้

สำหรับสเปคคัมรี่ ไฮบริด บรรจุเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอร์รี่รุ่นใหม่ทำจากนิกเกิลไฮไดร ที่โตโยต้าบอกว่า ดีกว่ารุ่นถึง 35% ส่งกำลังด้วยเกียร์ไฮบริด CVT ที่สำคัญจะมีระบบ VDIM อันทันสมัยที่ใส่อยู่ในรถของเล็กซัส ถูกนำมาใส่ในคัมรี่ ไฮบริดด้วย (คัมรี่ธรรมดาจะไม่มี)

ส่วนหน้าตาของตัวรถภายนอก กระจังหน้า,กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Blue-tinted Extension และจะมีสีฟ้าพิเศษเฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น ซึ่งสนนราคาค่าตัว จะสูงกว่ารุ่นปกติไม่เกิน 100,000 บาท

รูปภาพ

ในส่วนของการขับนั้นรอบแรกจะให้ครูฝึกขับให้เรานั่ง ต่อจากนั้น เราค่อยขับเอง 2 รอบตามที่กำหนดไว้ เพื่อดูถึงสมรรถนะและระบบการทำงานต่างๆ ของคัมรี่ ไฮบริด โดยออกตัวก่อนว่า รถคัมรี่คันที่เราขับนั้นเป็นตัว ทดลองประกอบ(Pre Production) ดังนั้น ความสมบูรณ์อาจจะไม่เท่ากับคันที่ขายจริง

รอบแรกเรานั่ง หลังกดปุ่มสตาร์ทเครื่อง สิ่งแรกที่สังเกตคือ ความเงียบหลังการติดเครื่อง ซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าติดเครื่องก็ไม่ถูกต้อง เพราะเครื่องยนต์ยังไม่ติด ต้องเรียกว่า “พร้อมเดินทาง” เนื่องจากจังหวะในการออกตัวของคัมรี่ ไฮบริดจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ใช้เครื่องยนต์ โดยจะมีไฟสัญลักษณ์คำว่า “READY” ติดขึ้นมาเพื่อบ่งบอกว่า รถอยู่ในสภาพพร้อมเดินทางได้

ตอนออกตัว รถก็ยังเงียบ (ใช้พลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว) จนกระทั่งวิ่งด้วยความเร็วราว 30 กม./ชม. เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมาให้รู้สึกได้เล็กน้อย ฉะนั้นหากเป็นการขับในเมืองที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแบบเต่าคลาน จะประหยัดน้ำมันอย่างมาก แบบไม่ต้องสงสัยก็เพราะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน
ทั้งนี้ เราจะสังเกตว่ารถใช้พลังงานจากไหนมาขับเคลื่อน(เครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้า ) สามารถดูได้จากหน้าจอตรงหน้าปัดบอกความเร็วจะมีจอแสดงผลอยู่ ซึ่งหากแบตเตอร์รี่มีกำลังไฟอ่อนลง จนถึงขนาดจำเป็นต้องชาร์จ เครื่องยนต์จะติดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพื่อชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอร์รี่แล้วก็จะดับลงเมื่อชาร์จไฟเพียงพอความต้อง การแล้ว

รูปภาพ




หลังจากโตโยต้าปูทางเรื่องราวของระบบไฮบริดมาเป็นเวลานานหลายปี และแล้วรถยนต์ไฮบริด โมเดลแรกของเมืองไทยก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ “คัมรี่ ไฮบริด” พร้อมกับการขึ้นไลน์ประกอบในประเทศแทนที่จะเป็นการนำเข้ามาจำหน่าย เรียกว่าเป็นเซอร์ไพร์สเล็กๆ

ด้วยสไตล์การทำตลาดแบบวิถีโตโยต้า การจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่สักรุ่นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมแบบครบวงจร รวมถึงใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อทำให้รถยนต์รุ่นนั้นประสบความสำเร็จ และในกรณีของ คัมรี่ ไฮบริด สิ่งสำคัญที่โตโยต้าต้องการจะสื่อให้ลูกค้าทราบคือ “การขอให้มั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์”

เนื่องจากความเป็นสินค้าใหม่สุดๆ เทคโนโลยีล้ำหน้า ที่ประชาชนคนไทย ส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคย ดังนั้นวิธีการที่จะสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้ทางหนึ่งก่อนที่รถจะเปิด ตัวอย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับไฮบริด(ที่โตโยต้าทำมานาน) คือ การนำสื่อมวลชน ไปทดลองขับและสัมผัสกับเจ้า คัมรี่ ไฮบริด ตัวเป็นๆ





การทดสอบมีขึ้น ณ สนามทดสอบรถยนต์ ของโตโยต้า ในบริเวณโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ และถือเป็นครั้งแรกของเรา “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ที่ได้สัมผัสกับสนามทดสอบแห่งนี้

ก่อนการทดลองขับ ทางโตโยต้าจัดอบรมความรู้ด้านระบบไฮบริดให้กับสื่อมวลชนทั้งหมดที่เข้าร่วม ในครั้งนี้ ส่วนของสเปค คัมรี่ ไฮบริด นั้นเรานำเสนอเพียงคร่าวๆ ด้วยเหตุโตโยต้ายังไม่เผยข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดออกมา เนื่องจากต้องรอหลังจากรถยนต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำหนดวันที่ 27 กรกฏาคมที่จะถึงนี้

สำหรับสเปคคัมรี่ ไฮบริด บรรจุเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอร์รี่รุ่นใหม่ทำจากนิกเกิลไฮไดร ที่โตโยต้าบอกว่า ดีกว่ารุ่นถึง 35% ส่งกำลังด้วยเกียร์ไฮบริด CVT ที่สำคัญจะมีระบบ VDIM อันทันสมัยที่ใส่อยู่ในรถของเล็กซัส ถูกนำมาใส่ในคัมรี่ ไฮบริดด้วย (คัมรี่ธรรมดาจะไม่มี)

ส่วนหน้าตาของตัวรถภายนอก กระจังหน้า,กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Blue-tinted Extension และจะมีสีฟ้าพิเศษเฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น ซึ่งสนนราคาค่าตัว จะสูงกว่ารุ่นปกติไม่เกิน 100,000 บาท





ในส่วนของการขับนั้นรอบแรกจะให้ครูฝึกขับให้เรานั่ง ต่อจากนั้น เราค่อยขับเอง 2 รอบตามที่กำหนดไว้ เพื่อดูถึงสมรรถนะและระบบการทำงานต่างๆ ของคัมรี่ ไฮบริด โดยออกตัวก่อนว่า รถคัมรี่คันที่เราขับนั้นเป็นตัว ทดลองประกอบ(Pre Production) ดังนั้น ความสมบูรณ์อาจจะไม่เท่ากับคันที่ขายจริง

รอบแรกเรานั่ง หลังกดปุ่มสตาร์ทเครื่อง สิ่งแรกที่สังเกตคือ ความเงียบหลังการติดเครื่อง ซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าติดเครื่องก็ไม่ถูกต้อง เพราะเครื่องยนต์ยังไม่ติด ต้องเรียกว่า “พร้อมเดินทาง” เนื่องจากจังหวะในการออกตัวของคัมรี่ ไฮบริดจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ใช้เครื่องยนต์ โดยจะมีไฟสัญลักษณ์คำว่า “READY” ติดขึ้นมาเพื่อบ่งบอกว่า รถอยู่ในสภาพพร้อมเดินทางได้

ตอนออกตัว รถก็ยังเงียบ (ใช้พลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว) จนกระทั่งวิ่งด้วยความเร็วราว 30 กม./ชม. เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมาให้รู้สึกได้เล็กน้อย ฉะนั้นหากเป็นการขับในเมืองที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแบบเต่าคลาน จะประหยัดน้ำมันอย่างมาก แบบไม่ต้องสงสัยก็เพราะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน
ทั้งนี้ เราจะสังเกตว่ารถใช้พลังงานจากไหนมาขับเคลื่อน(เครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้า ) สามารถดูได้จากหน้าจอตรงหน้าปัดบอกความเร็วจะมีจอแสดงผลอยู่ ซึ่งหากแบตเตอร์รี่มีกำลังไฟอ่อนลง จนถึงขนาดจำเป็นต้องชาร์จ เครื่องยนต์จะติดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพื่อชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอร์รี่แล้วก็จะดับลงเมื่อชาร์จไฟเพียงพอความต้อง การแล้ว





การนั่งสังเกตการณ์ในรอบแรกรู้สึกปกติไม่แตกต่างจากนั่งคัมรี่ทั่วไปจะมี เพียง เรื่องของเบาะนั่งมีระบบทำความเย็นซะด้วยคือมีลมเย็นออกมาจากตัวเบาะ รอบที่สอง เรามาเป็นผู้ขับ กุญแจแบบ Keyless กดสตาร์ทพร้อมเดินทาง เหยียบคันเร่งเบาๆ รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยเครื่องยนต์ไม่ติด เลี้ยงคันเร่งไปเรื่อยๆ จนความเร็วมาถึงราว 30 กว่า กม./ชม. เครื่องยนต์ก็ติดขึ้น

เราขับไปเรื่อยๆ เข้าโค้งก็เกาะดี มาถึงจุดที่เป็นสะพานจำลองเพื่อดูกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเพียงแค่กำลังของมอเตอร์เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องพึงเครื่องยนต์ก็สามารถขึ้นสะพานได้ เว้นแต่หากเรากดคันเร่งหนักเท้าทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์จะส่งแรงมาพร้อม กัน เนื่องจากระบบรู้ว่าเราต้องการไปด้วยความรวดเร็ว
ต่อมาเป็นการขับแบบลองอัตราเร่ง จากป้ายบอกระยะ 200 เมตร เรากดคันเร่งแบบคิกค์ดาวน์ ด้วย 2 แรงแข็งขันจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ นำพาตัวถังเกือบ 2 ตันของคัมรี่ ไฮบริดจากความเร็วการวิ่งราว 60 กม./ชม. พุ่งไปถึงความเร็ว 140 กม./ชม. ได้ที่ป้ายบอกระยะ 500 เมตร อย่างไม่ยากเย็น

รอบที่สามสุดท้าย เราขับเข้าไปยังจุดทดลองเบรก เพื่อดูถึงระบบ “มอเตอร์เบรก” ซึ่งทำงานคล้ายคลึงกับระบบเอ็นจิ้นเบรกในรถเครื่องยนต์ปกติ โดยขับทำความเร็วให้ถึง 100 กม./ชม. แล้วกดเบรก ชะลอรถจนถึงความเร็วราว 30 กม./ชม. เรารู้สึกเหมือนดังที่ อ.มนัส ดาวมณี บรรยายในห้องให้เราฟังว่า ระบบมอเตอร์เบรกนั้นจะช่วยเบรก ทำให้เรารู้สึกหน่วงๆ กว่าเบรกของรถปกติเล็กน้อย

รูปภาพ

ทั้งนี้ระบบเบรกของคัมรี่ ไฮบริด จะไม่เหมือนระบบเบรกปกติที่ใช้หม้อลมหรือไฮดรอลิก (จานเบรกและดิสก์เบรกยังคงมีเหมือนรุ่นธรรมดาทั่วไป) แต่จะเป็นระบบเบรกที่จำลองแรงต้าน โดยไม่มีแรงสะท้านตอบกลับมาเหมือนเบรกทั่วไป ซึ่งผลของการเบรกบอกได้คำเดียวว่า เบรกของคัมรี่ไฮบริดอุ่นใจไม่แพ้ใครแน่นอน

จากนั้นเราขับทดลองอัตราเร่งอีกครั้ง คราวนี้เพ่งสมาธิไปที่พวงมาลัย พบว่าน้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลงนิ่งๆ ไม่มีอาการใดๆ ให้เรารู้สึกหวั่นใจแม้วิ่งด้วยความเร็ว 140กม./ชม. และสังเกตเสียงดังของเครื่องยนต์ในจังหวะกดคันเร่งสุดๆ เสียงเครื่องมีคำรามเข้ามาในห้องโดยสารบ้างเล็กน้อย ชนิดที่เสียงลมประทะกระจกหน้ารถยังดังกว่า และแล้วเราก็ขับครบ 2 รอบ

แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ในการสัมผัสกับคัมรี่ ไฮบริด แต่เราก็พอจะจับอาการของรถได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งขอบอกตรงๆ ว่า หากคุณได้ลองขับเท่าที่เราได้ขับแล้ว เชื่อขนมกินได้เลยว่า คำกล่าวของประธานโตโยต้า ประเทศไทย ที่คาดว่าคัมรี่ ไฮบริดจะครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 60% ของยอดขายคัมรี่ทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องโม้หรือเกินความจริงแต่อย่างใด

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ